1137 จำนวนผู้เข้าชม |
ทุเรียน ได้ชื่อว่า เป็นราชาผลไม้ ที่ทั้งลูก (เนื้อ+เปลือก)มีสารอาหารที่สูงมาก
(ถ้าเป็นวัตถุดิบ คงเทียบเท่า Super food กันเลยทีเดียว) โดยในเนื้อของทุเรียน
จะมีสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถัน เช่น thiols, thioethers, ester และ sulphidesที่ทำให้ทุเรียนมีกลิ่นเฉพาะตัวแรง
ตัวอย่าง พันธุ์ทุเรียนยอดฮิต และจำนวนกรัม ที่แนะนำ สำหรับ 1 หน่วยบริโภค
ทุเรียนก้านยาว 50 กรัม
ทุเรียนกระดุม 58 กรัม
ทุเรียนชะนี 58 กรัม
ทุเรียนพวงมณี 55 กรัม
ทุเรียนหมอนทอง 50 กรัม
คุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญ ๆ ของทุเรียน น้ำหนัก 100 กรัม
พลังงาน 174 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม
ไขมัน 5.33 กรัม
โปรตีน 1.47 กรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 436-680 มิลลิกรัม (แล้วแต่พันธุ์ทุเรียน)
ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม
ทุเรียนยังเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติ ผู้ป่วยโรคไต จึงควรเลี่ยงเพราะจะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และยังต้องระมัดระวังในการกินทุเรียนแปรรูป อาทิ ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด ทุเรียนเผา เป็นต้น เนื่องจากมีน้ำตาลสูงมากกว่าทุเรียนสด
สรุปแล้ว สำหรับผู้ป่วยโรคไต และผู้ป่วยโรคหัวใจ ก็ควรจำกัดไม่เกิน 1 เม็ดต่อครั้ง และไม่ควรรับประทานทุกวันเช่นกัน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับเกลือแร่ โพแทสเซียม และฟอสฟอรัสเกินอันนำมาซึ่งการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ หรือการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง เป็นต้น ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยส่งเสริมระบบเผาผลาญและความแข็งแรงของร่างกาย ทำให้เราห่างไกลจากโรคอ้วนจากการรับประทานทุเรียน
อ้างอิงจาก
https://tu.ac.th/thammasat-210664-med-expert-talk-durian-for-kidney-and-heart-disease-patients
http://www.kidneymeal.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%95/durian/
ผศ.พญ.ศานิต วิชานศวกุล อายุรแพทย์โภชนาการ หัวหน้าหน่วยโภชนาการคลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์