630 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาวะน้ำท่วมปอด (Pulmonary edema) หรือภาวะปอดบวมน้ำ เกิดจากการมีของเหลวในถุงลมปอดมากผิดปกติ ทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง ผู้ป่วยจึงเกิดอาการต่าง ๆ จากการมีระดับออกซิเจนในเลือดลดลงหากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะน้ำท่วมปอดในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเมื่อไตไม่สามารถทำหน้าที่เคลียน้ำและของเสียออกจากร่างกายได้อีกต่อไป น้ำนี้ก็จะค่อยๆ ซึมเข้าไปขังอยู่ในปอด จนในที่สุดก็เกิดภาวะน้ำท่วมปอด สังเกตได้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเหนื่อย และร่างกายก็จะเริ่มบวมน้ำจนเห็นได้ชัด
อาการ
หายใจหอบเหนื่อยขณะที่ออกแรง หรือหายใจไม่สะดวกเวลานอนราบเมื่อโรคมีความรุนแรงมากขึ้นอาจมีอาการหอบเหนื่อยแม้ไม่ได้ออกแรง
มีอาการไอ เหนื่อย หรือแน่นหน้าอก
มีอาการบวมที่แขนหรือขาร่างกายบวมน้ำอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุ
สาเหตุจากการบีบและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในหัวใจมากขึ้นและมีแรงดันย้อนกลับไปที่ถุงลมปอด เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภาวะลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว ปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ดี ภาวะโปรตีนในเลือดต่ำ ไตทำงานลดลง (ไตเสื่อมหรือไตวาย)
สาเหตุอื่นนอกจากการทำงานของหัวใจ เช่น ภาวะการหายใจล้มเหลวฉับพลัน การได้รับยาหรือสารเสพติดบางชนิด การได้รับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดหรือภาวะน้ำท่วมปอดจากการขึ้นที่สูง น้ำท่วมปอด แม้ไม่ใช่โรค แต่ก็มีความเกี่ยวพันกับโรคอื่นๆ ได้ เช่นหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย รวมถึงโรคไต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น
แนวทางการรักษา
การรักษาเบื้องต้น ได้แก่ การให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดปริมาณน้ำในปอดและเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือดเพื่อการลดอาการเหนื่อย ควบคุมปริมาณน้ำที่ดื่มในแต่ละวัน ลดโซเดียม และอาหารรสเค็ม หลีกเลี่ยงการกินยาตระกูล NSAIDs ซึ่งเป็นกลุ่มยาแก้ปวด แก้อักเสบบางชนิด
การรักษาหลัก คือ แก้ไขสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอด เช่น การแก้ใขการทำงานของหัวใจ การควบคุมความดันโลหิตให้เหมาะสม เป็นต้น